Madrid Provision

เหมือนการเที่ยวยุโรปส่วนมาก ที่การเที่ยวมาดริด มักเป็นการย้อนไปในเรื่องราวของอดีต การมุ่งหน้าไปเมืองเก่า (Old Quarter) จึงเป็นเรื่องที่ทำให้เราตื่นเต้นได้เสมอ

เพราะเมืองหลวงของสเปนเป็นศูนย์รวมของหลายสิ่ง โดยเฉพาะสนามบินใหญ่ที่สามารถบินไปง่ายจากประเทศไทย ราคาค่าครองชีพที่ต่ำากว่ายุโรปเมืองอื่นของที่นี่ย่อมหมายถึงสรวงสวรรค์น้อยๆ ของนักช้อป แต่มาดริดก็ยังมีเสน่ห์ส่วนตัว ด้วยบ้านเมือง สวนสาธารณะ ศิลปะในพิพิธภัณฑ์ และร้านอาหาร ที่เป็นจุดเด่นพิเศษของเมือง

img_9214-new-w1

เหมือนการเที่ยวยุโรปส่วนมาก ที่การเที่ยวมาดริด มักเป็นการย้อนไปในเรื่องราวของอดีต การมุ่งหน้าไปเมืองเก่า (Old Quarter) จึงเป็นเรื่องที่ทำให้เราตื่นเต้น ได้เสมอ แม้เมืองหลวงแห่งสเปนแห่งนี้จะมีขนาดใหญ่ แต่ย่านเมืองเก่าเป็นย่านศูนย์กลางที่เราสามารถ เดินเล่นเองได้ไม่ยาก ที่สำคัญ ย่านนี้ตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟ Sol ที่รถไฟทุกสายต้องมารวมกัน ดังนั้นไม่ว่าจะพักอยู่ที่ไหน ให้ขึ้นรถไฟมา Sol เท่านั้น คุณก็มาเมืองเก่าของมาดริดได้แล้ว

แต่ด้วยบัญชาการของกระเพาะอาหาร เราจึงเริ่มบุกเบิกการเที่ยวมาดริดกันที่โซนพลาซ่ามายอร์ (Plaza Mayor) ก่อน เพราะนอกจากจะเต็มไปด้วย สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่น่าชมตลอดเส้นทางแล้ว หลังพลาซ่ามายอร์ยังเป็นตลาดที่มีแต่อาหารอร่อยๆ ตลาดนั้นก็คือตลาดซานมิเกล (Mercado de San Miguel) นั่นเอง อย่างหนึ่งที่มีหลายเสียงเตือนมาก็คือ เรื่องการล้วงกระเป๋าที่นี่ ดังนั้นทางที่ดี คือ ให้เก็บกระเป๋าและเอกสารสำคัญทุกสิ่งอย่างไว้ในตู้เซฟของโรงแรม แล้วนำไปเฉพาะเงินที่ต้องการใช้ในช่วงนั้น ประมาณ 20-30 ยูโร น่าจะพอสำาหรับการเดินเล่น รับประทานทาปาส ในช่วงบ่าย และให้ใส่เงินนั้นไว้ในกระเป๋ากางเกงให้มิดชิด เพื่อจะได้ไม่ต้องสะพายกระเป๋าใบโตให้ตกเป็นเหยื่อของโจร

madrid02

สถานี Sol เป็นศูนย์กลางของจักรวาลเล็กๆ ในเมืองเก่ามาดริดจริงๆ เพราะทันทีที่เราก้าวขึ้นไปบนถนนนั้น มองหมุนไปรอบข้าง เราจะเห็นว่าทุกอย่างนั้นมารวมตัวกันที่นี่ ถนนสายเล็กๆ ที่ต่างมุ่งหน้าไปพลาซ่ามายอร์ก็เริ่มต้นที่นี่ เอาเป็นว่าคุณเดินถือแผนที่ไว้ และเดินหลงนิดหลงหน่อยยังไงก็ต้องไปถึงพลาซ่ามายอร์ได้ก็แล้วกัน พลาซ่ามายอร์มีร้านอาหารให้เลือกมากมาย แต่ไม่แนะนำเพราะอาหารที่นี่ราคาแพงเกินเหตุ เนื่องจากเป็นแหล่งนักท่องเที่ยวนั่นเอง

madrid05

ทางที่ดี เดินออกไปตามตรอกด้านหลังด้านถนน Calle Ciudad Rodrigo ดีกว่า ตลาดซานมิเกล หน้าตาเหมือนกล่องกระจกขนาดใหญ่ที่บรรจุร้านอาหารเล็กๆ สไตล์ทาปาสไว้เต็ม มีร้านที่นี่ประมาณ 20 ร้าน เช่น ทาปาส อาหารทะเล แฮม หอยนางรม สดๆ (เสิร์ฟคู่กับเบียร์ ไวน์ขาว หรือแชมเปญ) เบเกอรี่ ทาร์ตไข่ ขนมแบบโปรตุเกส ช็อกโกแลต ชีสนานาประเภท ขนมปังอบใหม่ๆ หอมกรุ่น พิซซ่า ชิ้นเล็ก กาแฟและเครื่องดื่มแก้หนาวทั้งหลาย เช่น ช็อกโกแลตร้อน เราสามารถซื้อแล้วไปนั่งรับประทานที่โต๊ะกลางตลาดได้ หรือหากร้านไหนมีเคาน์เตอร์ให้เกาะ ก็สามารถยืนเกาะรับประทานหน้าร้านได้เลย ไม่มีปัญหา แนะนำให้ไปเร็ว เพราะที่นี่คนเยอะมากๆ ตลอดเวลา และคุณจะไม่มีโต๊ะนั่งหรือเกาะเลย

madrid03

madrid04

ออกจากตลาดได้ก็ต้องเดินย่อย ไม่ต้องห่วงค่ะ เพราะแถวนี้มีอะไรมากมายให้ชมกันตลอดทาง สามารถเดินนวยนาดดูเมืองบนถนน Calle Mayor และ Calle del Arenal ค่อยๆ ลัดเลาะเข้าตรอกซอกซอยเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยร้านค้า ตั้งแต่ร้านขายของที่ระลึกของกระจุกกระจิกสำหรับสะสม และเรื่อยเปื่อยมาจนถึง Plaza de la Paja แวะชมสวน Jardín del Príncipe de Anglona เล็กๆ น่ารัก มีกำาแพงล้อมรอบ ที่มีจุดเด่น คือ ต้นทับทิมและต้นอัลมอนด์ ตรงนี้นักท่องเที่ยวถือแผนที่จำนวนน้อยลงหน่อย ทำให้เรารู้สึกดีราวกับว่าได้มาค้นพบสถานที่ใหม่ๆ ที่ยังไม่มีใครกล่าวถึงในหนังสือนำเที่ยว ใกล้ๆ กันนั้น เราขอแวะไปชมภาพวาดฝาผนังของโกย่า (Francisco Goya) ที่โบสถ์ San Francisco el Grande Basilica ซึ่งว่ากันว่ามีโดมขนาดใหญ่กว่าโบสถ์เซ็นต์ปอลในกรุงลอนดอนเสียอีก เข้าไปแล้วก็ไม่ลืมที่จะดูภาพวาดที่ชื่อว่า San Bernardino de Siena ที่โกย่าวาดไว้เป็นผลงานแรกๆ ในชีวิตของเขาสำหรับกรุงมาดริด และภาพวาดชิ้นอื่นๆ ของศิลปินเอก เช่น Zurbarán และ Velázquez ด้วยค่ะ ในเมื่อยังอยู่ในอารมณ์ศิลปะ แนะนำว่าให้ข้ามเมืองมายังพิพิธภัณฑ์พราโด (Museo del Prado) ซึ่งเป็นที่สะสมผลงานภาพวาดของศิลปินเอกชาวสเปนตั้งแต่ศตวรรษที่ 11-18 ไว้ได้อย่างครบถ้วน เช่น El Greco, Velázquez, Goya, Bosch, Tiziano, Van Dyck และ Rembrandt สุดท้ายแล้วเราได้ข้อคิดมาจากชาวมาดริดว่า ควรไปตอนบ่ายที่คนสเปนนอนกลางวัน คือระหว่าง 15.30-17.30 น. หรือไม่ก็ประมาณ 2-3 ชั่วโมงใกล้ปิด หรือไม่ก็ให้จองตั๋วมาก่อนทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งนอกจากราคาจะถูกกว่าหน้างาน 1 ยูโรแล้ว ยังทำาให้เราไม่ต้องรอคิว คือ พิมพ์ตั๋วจากบ้าน ไปก่อน แล้วนำาไปยื่นให้เขาได้เลย แน่นอนว่าในกรณีนี้ คุณต้องวางแผนล่วงหน้าให้ดีเป็นพิเศษกันหน่อย

STORY : OHHAPPYBEAR  PHOTOGRAPHY : TAE WONGPANIT

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *